ปลัด

สายตรงนายก

ร้องเรียนร้องทุกข์



คู่มือประชาชน

สำรวจความคิดเห็น

บริการปรึกษาข้อกฏหมายท้องถิ่น

Tourist Infomation Online

ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่

ข่าวสารอาเซียน

ระบบบันทึกสถิติการเกิดอุบัติเหตุ

ตรวจเช็คอีเมล

ระบบจัดการบริหารเว็บไซต์

EGP

ชำระภาษี ของ ชม.



สถิติการเข้าชม เริ่มวันที่ 24/07/2557
วันนี้
35
เมื่อวานนี้
62
เดือนนี้
0
เดือนที่แล้ว
2,920
ปีนี้
13,642
ปีที่แล้ว
33,887
ทั้งหมด
179,972
ไอพี ของคุณ
18.207.240.77
ประวัติความเป็นมา
 
 

ประวัติความเป็นมา

 
       ความเป็นมาแต่โบราณกาล  คำว่า  “โป่งแยง”   มาจากไหน  ในหลักฐานประวัติศาสตร์ไม่ได้บันทึกไว้  ได้ทราบจากคนเฒ่าคนแก่เล่าสืบกันมาว่า  ตำบลโป่งแยง เป็นตำบลเก่าแก่ตำบลหนึ่ง ของอำเภอแม่ริม  จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งจะได้เห็นได้จากซากอิฐวัดร้างหลายแห่งในตำบลนี้  คือ วัดร้างกลางทุ่งหนองแดง หมู่ที่1บ้านโป่งแยงในดงชาวแม้วทางเข้าเอราวัณรีสอร์ท หมู่ที่ 2 บ้านโป่งแยงนอกปัจจุบันเป็นศาลเจ้ามีซากอิฐวัดร้างวัดใหม่ศรีม่วงคำด้านล่างและอุโบสถเก่าแก่บ้านหลวงกับซากอิฐบริเวณบ้านดงฝั่งตะวันตกของบวกเขียด หมู่ที่ 3  บ้านม่วงคำ ซากอิฐวัดร้างถ้วยประทีป  ซากถ้วยโถโอชาม  โบราณวัตถุแตกหักบริเวณสวนเมี่ยงชา   หมู่ที่ 8 บ้านปางลุง  ซากอิฐโบราณวัตถุต่าง ๆ เหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่าตำบลโป่งแยงเก่าแก่มานานนับ  400  ปีขึ้นไป  ซึ่งจะตั้งหมู่บ้านโป่งแยงนี้หลังการตั้งเมืองเชียงใหม่  อายุราว  600 กว่าปี  ตำบลโป่งแยงแต่เดิมมีเพียงสองถึงสามหมู่บ้านมีผู้ใหญ่บ้านเรียกว่า  พ่อหมื่น  ต่อมาได้ตั้งเป็นตำบลแม่ฮะ อำเภอหางดง มีกำนันคนแรกเรียกว่า  พ่อขุนเท้า และได้ย้ายมาขึ้นกับตำบลสะเมิงใต้  อำเภอสะเมิง จนกระทั่งได้เป็นตำบลโป่งแยงขึ้นกับอำเภอแม่ริมจนถึงปัจจุบัน  คำว่าหมื่น ท้าว ขุน พระยา ถ้าจะเทียบกับปัจจุบัน หมื่น คือ  ผู้ใหญ่บ้าน ท้าว คือ กำนัน ขุน คือ นายอำเภอ  พระยา  คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด  ทางภาคเหนือเรียกผู้ใหญ่บ้านว่า พ่อหลวง เรียกกำนันว่า พ่อแคว่น  คือผู้ปกครองแคว้นแดนดินแห่งหนึ่ง 
             
 
        คำว่า  “โป่งแยง”   ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าสืบต่อกันมาว่าในอดีตกาลเมืองเชียงใหม่ถูกข้าศึกศัตรูยกทัพมารุกราน รบราฆ่าฟันแย่งชิงเอาบ้านเมืองเพื่อต้องการเอาเป็นเมืองขึ้น  เพราะเชียงใหม่อุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหารมาแต่โบราณกาล  เมื่อเกิดสงครามรบราฆ่าฟันกันบ่อย  ขุนนางเจ้าสร้อยดอกพร้าวจึงได้อพยพครอบครัวจากเชียงใหม่มาตั้งบ้านเรือนหนึ่งหลังอยู่ด้วยกัน 7 หม้อข้าวหรือ 7 ครอบครัวปลูกบ้านหลังเดียวขนาดใหญ่  เรียกว่า  “บ้านหลวง” ซึ่งอยู่ในเขตหมู่ที่ 3  ตำบลโป่งแยง
             
 
       ชาวบ้านเรียกติดปากกันว่า  บ้านหลวง  ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของตำบลโป่งแยง  ขุนนางเจ้าสร้อยดอกพร้าว  เป็นผู้มีวรรณโฉมสวยงามผิวขาวเนียนหาผู้ใดเทียบไม่ได้  ท่านได้ปักฐานอยู่บริเวณบ้านหลวง  ท้าวพระยาผู้ครองเมืองเชียงใหม่และหัวเมืองน้อยใหญ่  ในประเทศลานนาสมัยนั้นทราบกิตติศัพท์ขุนนางเจ้าสร้อยดอกพร้าว ผู้เลอโฉมยิ่งนัก  ต่างหลั่งไหลพากันมาผ่อมาแยง (มาดู)  โดยที่ขุนนางเจ้าสร้อยดอกพร้าว  ท่านเบื่อศึกสงคราม อยากมาอยู่ที่สงบสันติ หลบภัยสงครามการเมือง ไม่อยากจะพบท้าวขุนพระยาเมืองเล็กเมืองใหญ่เจ้าเมืองเชียงใหม่จึงได้ปลอมตัวเป็นชาวบ้านเข้ามาผ่อมาแยงจึงได้ชื่อตำบลโป่งแยงสมัยนั้น เป็นตำบล  “ปลอมแยง” ต่อมาเปลี่ยนเป็นตำบล  “ป่องแยง”  และปัจจุบันเปลี่ยนเป็นตำบล  “โป่งแยง”  ซึ่งเป็นตำบลหนึ่งที่น่ามาผ่อมาดูหรือมาแยง คำว่า  “แยง” แปลว่า ดู  ซึ่งเหมาะสมกับชื่อในปัจจุบันซึ่งใคร ๆ ก็อยากมาดูมาแยงความงามของสตรีและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ 
               
           
   อีกประการหนึ่งในสมัยโบราณการต่อสู้รบทัพจับศึกของเมืองเชียงใหม่  ได้เคลื่อนย้ายพลทหารจำนวน  1,400  คน เข้ามาในตำบลโปงแยงที่ห้วยปันสี่  ตรงข้ามสวนพฤษศาสตร์ภาคเหนือ กรมป่าไม้  ในปัจจุบันเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างตำบลโป่งแยงกับตำบลแม่แรม และเจ้าเมืองเชียงใหม่ยังเคลื่อนย้ายทหารเข้ามาในเขตตำบลโป่งแยง ตั้งค่ายพักแรมที่บ้านโป่งแยงนอกจำนวนหนึ่งแสนคน เรียกว่า ม่อนพระยาแสน ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าตำบลโป่งแยงเป็นเมืองหนึ่งของเชียงใหม่ที่น่าเที่ยวซึ่งไม่ห่างไกลจากเมืองเชียงใหม่เท่าใดนัก
        
 
     องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งแยง ตั้งอยู่ในเขตท้องที่ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการจัดตั้งเป็นสภาตำบลมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่10 ธันวาคม  พ.ศ.2499  และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่  7  มกราคม  พ.ศ.2500 ต่อมากระทรวงมหาดไทยประกาศให้เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลเนื่องจากมีฐานะการคลังเพียงพอที่จะบริหารงานประจำขององค์การบริหารส่วนตำบลได้ ในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2539 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 113  ตอนพิเศษ   52 ง  ลงวันที่  25  ธันวาคม พ.ศ. 2539   โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2540 เป็นต้นมา และตามพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะสภาตำบล  เป็นองค์การบริหารส่วนตำบล  จึงได้เปลี่ยนแปลงฐานะการปกครองเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งแยงตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์  2540